ยินดีต้อนรับสู่บล็อกเกอร์ นางสาวชลธิชา สุนาคำ (อุ้ม) ปฐมวัยปี2 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม :)

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 2

บันทึกอนุทิน
วัน/เดือน/ปี   21/มิ.ย/2556
ครั้งที่2   เวลาเรียน 13.10-16.40
เวลาเข้าสอน 13.10 เวลาเข้าเรียน 13.10  เวลาเลิกเรียน 16.40



ภาษา :คือ การสื่อความหมาย เป็นเครื่องมือในการแสดงความคิดเห็นและความรูู้สึกต่างๆภายในของมนุษย์เรา สามารถใช้ในการสือสารระหวางบุคคลเพื่อให้เกิดความเข้าใจในสิ่งเดียวกัน

     " ความสำคัญของภาษา"  
1. เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
2.เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้
3.เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน
4.เป็นเครื่องมือช่วนจรรโลงจิตใจของมนุษย์เรา

      "ทักษะทางภาษา"
1.การฟัง ใช้หูในการรับรู้
2.การพูด ใช้ปากสื่อถึงบุคคลอื่น
3.การอ่าน การใช้สายตาเพื่อการรับรู้
4.การเขียน เขียนสื่อถุงบุคคลอื่น 

ทฤษฏีพัฒนาการด้านสติปัญญาของ  <Piaget>
      การที่เด็กมีปฎิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญ ในการพัฒนาการทางด้านภาษาและสติปัญญาของเด็ก เพราะ ภาษาจะเกิดขึ้นได้จะต้องมีปฎิสัมพันธ์ เช่น การพูดคุยกันกับเพื่อน

กระบวนการเรียนรู้ประกอบด้วย 2 กระบวนการ
       1.การดูดซึม Assimilation : เป็นการที่เด็กได้รู้ ได้ดูดซึมภาพต่างๆจากสภาพแวดล้อมด้วยประสบการณ์ของตนเอง เช่น สัตว์ที่มีปีก เด็กก็จะคิดว่าเป็นนก
        2.การปรับความเข้าใจเดิมให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ Accomodation : เป็นกระบวนการที่เกิดควบคู่ไปกับการดูดซึม โดยการปรับความรู้เดิมที่มีอยู่แล้วให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมหรือประสบการณ์เดิม เช่น นก คือ สัตว์ที่มีปีก บินได้ ปากแหลมๆ และร้องจิ๊บๆ เมื่อเกิดการดูดซึมและการปรับความเข้าใจจะเกิดความสมดุล Equilibrium กลายเป็นความคิดรวบยอดของสมอง

พัฒนาการด้านภาษามี 4ขั้น
      1. ด้านประสาทสัมผัส Sensorimotor Stage แรกเกิด - 1 ปี  : เด็กเรียนรู้คำศัพท์จากสิ่งแวดล้อม บุคคลรอบตัว

      2.ความคิดอย่างมีเหตุผล Preoperational Stage :
             2.1 อายุ 2 - 4 ปี (Preconceptual Period)
               - เด็กเริ่้มใช้ภาษาและสัญลักษณ์ในการสื่อสาร เล่นบทบาทสมมติ การเล่าเรื่อง แสดงความรู้สึกผ่านสีหน้า บอกชื่อสิ่งต่างๆ รอบตัว ภาษาของเด็กมีลักษณะยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง จะใช้ภาษาหรือสัญลักษณ์ออกโดยคิดว่าผู้อื่นคิดเหมือนตน

             2.2 อายุ 4 -7 ปี (Intuitive Period)
                  - ใช้ภาษาในการสื่อสารได้ดีกับครอบครัว คนรอบข้าง ให้ความสนใจกับสิ่งที่เป็นนามธรรมได้บ้าง ยังยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง
                  - รู้จักสร้างมโนทัศน์โดยอาศัยการจัดกลุ่มวัตถุสามารถเห็นความสัมพันธ์กับสิ่งของ 

      3.รูปธรรม Concrete Operational Stage อายุ 7 - 11 ปี : แก้ปัญหา ใช้เหตุผลเป็นรูปธรรม

      4.นามธรรม Formal Operational Stageอายุ 11 - 15 ปี : คิดเป็นระบบ แก้ปญหา เข้าใจกฏเกณฑ์ทางสังคม  และสร้างมโนทัศน์ให้ความสัมพันธ์กับนามธรรม

" พัฒนาการทางภาษา "
       เด็กจะค่อยๆสร้างความรู้และความเข้าใจเป็นลำดับขั้นตอน ครูต้องเข้าใจและยอมรับหากพบว่าเด็กใช้คำศัพท์หรือไวยกรณ์ไม่ถูกต้อง ควรมองว่านั้นเป็นกระบวนการ การเรียนรู้ทางภาษาของเด็ก


  " จิตวิทยาการเรียนรู้ "

1. ความพร้อม
    วัย  ความสามารถ  และประสบการณ์เดิมของเด็ก

2. ความแตกต่างระหว่างบุคคล
    - อิทธิพลทางพันธุ์กรรม
    - อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม - ครอบครัว/การอบรมสั่งสอน

3. การจำ
   - การเห็นบ่อย ๆ
   - การทบทวนเป็นระยะ
   - การจัดเป็นหมวดหมู่
   - การใช้สัมผัส

4. การให้แรงเสริม แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
   - แรงเสริมทางบวก เช่น การชม การกอด เป็นต้น จะส่งผลให้เด็กทำพฤติกรรมนั้นอีก
   - แรงเสริมทางลบ เช่น กล่าวตักเตือนให้เหมาะสมกับสถานการณ์  จะส่งผมให้พฤติกรรมนั้นมีความถี่ลดลง และจะหายไปในที่สุด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น